วันพุธที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2554
“ความซื่อสัตย์ ( Integrity ) ” ในการทำงาน
ก่อนอื่นต้องถามตัวคุณเองก่อนว่า คุณมีความซื่อสัตย์ ( Integrity) ในการทำงานมากน้อยแค่ไหน และแน่นอนว่าคงจะไม่มีใครตอบว่าตนเองไม่มีความซื่อสัตย์ ความซื่อสัตย์จึงเป็นคุณลักษณะที่สำคัญและเป็นที่ต้องการในทุกองค์การ ซึ่งความซื่อสัตย์นอกจากจะหมายถึงการ รักษาความลับ ผลประโยชน์ และทรัพย์สินต่าง ๆ ของบริษัทแล้ว ความซื่อสัตย์ยังหมายรวมไปถึงการให้ข้อมูลที่ถูกต้องและไม่บิดเบือนจากความเป็นจริง และการปฏิบัติตามระเบียบหรือกฎของบริษัท และยังพบว่าอีกว่ามีหลายองค์การได้กำหนดความซื่อสัตย์เป็นวัฒนธรรมองค์การ (Corporate Culture) หรือคุณค่าร่วม ( Core Value) ที่เกี่ยวข้องกับความคิดความเชื่อที่อยากให้พนักงานทุกคนปฏิบัติ
แล้วทำไมคุณจะต้องมีความซื่อสัตย์ในการทำงาน ..... ความซื่อสัตย์ในการทำงานจะส่งผลโดยตรงต่อคุณลักษณะส่วนบุคคล ( Personal Attribute) ของตัวคุณเองที่คนอื่นมองหรือรับรู้ในตัวคุณว่าเป็นคนที่มีความซื่อสัตย์หรือไม่ นอกจากนี้ยังรวมไปถึงผลต่อเนื่องไปยังหน่วยงานและองค์การของคุณเอง ทั้งนี้คุณลักษณะของความซื่อสัตย์จะมีความสำคัญและส่งผลต่อตัวคุณและต่อหน่วยงานหรือองค์การของคุณ ขอสรุปได้ดังต่อไปนี้
1. การได้รับ ความไว้วางใจ จากหัวหน้างานของคุณ พนักงานที่มีความซื่อสัตย์ย่อมทำให้หัวหน้างานพร้อมและกล้าพอที่จะมอบหมายงานที่สำคัญหรือเป็นความลับของบริษัทให้กับคุณ เพราะหัวหน้าไว้วางใจตัวคุณเพราะรู้ว่างานที่มอบหมายให้ไปนั้นคุณต้องทำเสร็จและข้อมูลที่คุณทำนั้นมีความถูกต้องอย่างแน่นอน
2. ความน่าเชื่อถือ ได้ของตัวคุณ คุณจะได้รับการยอมรับและการกล่าวถึงในทางที่ดีจากบุคคลรอบข้าง ไม่ว่าจะเป็นหัวหน้างาน เพื่อนร่วมงาน ลูกน้อง หรือแม้กระทั่งลูกค้าของคุณเอง เช่น ยอมรับว่าคุณมีความรับผิดชอบและความตั้งใจทำงาน เนื่องจากคุณไม่เคยที่จะขาดงานหรือมาสาย รวมทั้งข้อมูลที่คุณให้นั้นมีความถูกต้องและเป็นปัจจุบันเสมอ
3. สร้างผลงาน ( Performance) ของตัวคุณ ความซื่อสัตย์ทำให้คุณมีโอกาสทำงานใหญ่หรือสำคัญ ซึ่งอาจเป็นงานที่มีผลกระทบต่อหน่วยงานหรือองค์การ โดยคุณจะมีโอกาสแสดงฝีมือการทำงานของคุณและโอกาสนี้เองย่อมจะส่งผลต่อเนื่องไปยังผลผลการปฏิบัติงาน (Performance) และมูลค่าเพิ่ม (Added Value) ของตัวคุณเอง
4. รักษาผลประโยชน์ของหน่วยงาน/บริษัท หากคุณมีความซื่อสัตย์แล้วล่ะก็ ย่อมหมายถึงคุณไม่ได้เอาเปรียบหน่วยงานและบริษัท เนื่องจากคุณทำงานอย่างเต็มที่ ได้ปฏิบัติตามระเบียบและรักษาทรัพย์สินของบริษัท และรวมถึงคุณไม่เอาความลับของบริษัทไปเปิดเผยให้คู่แข่งรับรู้ ซึ่งหมายถึงคุณกำลังรักษาผลประโยชน์ให้กับหน่วยงานและบริษัทของคุณเอง
1. การได้รับ ความไว้วางใจ จากหัวหน้างานของคุณ พนักงานที่มีความซื่อสัตย์ย่อมทำให้หัวหน้างานพร้อมและกล้าพอที่จะมอบหมายงานที่สำคัญหรือเป็นความลับของบริษัทให้กับคุณ เพราะหัวหน้าไว้วางใจตัวคุณเพราะรู้ว่างานที่มอบหมายให้ไปนั้นคุณต้องทำเสร็จและข้อมูลที่คุณทำนั้นมีความถูกต้องอย่างแน่นอน
2. ความน่าเชื่อถือ ได้ของตัวคุณ คุณจะได้รับการยอมรับและการกล่าวถึงในทางที่ดีจากบุคคลรอบข้าง ไม่ว่าจะเป็นหัวหน้างาน เพื่อนร่วมงาน ลูกน้อง หรือแม้กระทั่งลูกค้าของคุณเอง เช่น ยอมรับว่าคุณมีความรับผิดชอบและความตั้งใจทำงาน เนื่องจากคุณไม่เคยที่จะขาดงานหรือมาสาย รวมทั้งข้อมูลที่คุณให้นั้นมีความถูกต้องและเป็นปัจจุบันเสมอ
3. สร้างผลงาน ( Performance) ของตัวคุณ ความซื่อสัตย์ทำให้คุณมีโอกาสทำงานใหญ่หรือสำคัญ ซึ่งอาจเป็นงานที่มีผลกระทบต่อหน่วยงานหรือองค์การ โดยคุณจะมีโอกาสแสดงฝีมือการทำงานของคุณและโอกาสนี้เองย่อมจะส่งผลต่อเนื่องไปยังผลผลการปฏิบัติงาน (Performance) และมูลค่าเพิ่ม (Added Value) ของตัวคุณเอง
4. รักษาผลประโยชน์ของหน่วยงาน/บริษัท หากคุณมีความซื่อสัตย์แล้วล่ะก็ ย่อมหมายถึงคุณไม่ได้เอาเปรียบหน่วยงานและบริษัท เนื่องจากคุณทำงานอย่างเต็มที่ ได้ปฏิบัติตามระเบียบและรักษาทรัพย์สินของบริษัท และรวมถึงคุณไม่เอาความลับของบริษัทไปเปิดเผยให้คู่แข่งรับรู้ ซึ่งหมายถึงคุณกำลังรักษาผลประโยชน์ให้กับหน่วยงานและบริษัทของคุณเอง
มาถึงคำถามที่ว่า หากจะวัดหรือประเมินความซื่อสัตย์ได้อย่างไร เช่น หากถามว่านาย ก มีความซื่อสัตย์มากกว่านาย ข นั้น เราจะพิจารณาหรือประเมินได้จากอะไรได้บ้าง และเพื่อทำให้องค์การสามารถประเมินหรือวัดความซื่อสัตย์ได้ จึงทำให้องค์การได้กำหนดความซื่อสัตย์เป็นพฤติกรรมหรือความสามารถอย่างหนึ่ง ( Competency) ซึ่งสามารถกำหนดได้เป็นความสามารถหลัก ( Core Competency) ที่เป็นความสามารถหรือพฤติกรรมที่ใช้วัดหรือประเมินพนักงานสำหรับทุกคนและทุกตำแหน่งงาน นอกจากนี้ยังสามารถกำหนดเป็นความสามารถในงาน ( Job Competency) ได้อีกด้วย ซึ่งพฤติกรรมของความซื่อสัตย์นั้นสามารถกำหนดเป็นพฤติกรรมออกมาแยกเป็นระดับต่าง ๆ เพื่อใช้ประเมินผลและพัฒนาพนักงานได้ โดยขอยกตัวอย่างของการแบ่งพฤติกรรมความซื่อสัตย์ออกเป็น 5 ระดับ ดังต่อไปนี้
ระดับ | ลักษณะพฤติกรรม |
1 (ต่ำกว่ามาตรฐานที่กำหนดอย่างมาก) | • ให้ข้อมูลที่บิดเบือนจากความเป็นจริง เป็นเหตุให้เกิดปัญหาหรือความเข้าใจผิดได้ • หลีกเลี่ยงการตักเตือนหรือแจ้งผู้ที่ทำผิดระเบียบหรือกฎของบริษัท • ปฏิเสธและไม่ยอมรับความผิดพลาดที่เกิดขึ้น โดยมักจะอ้างถึงผู้อื่นอยู่เสมอ • ละเมิดระเบียบหรือกฎของบริษัทอยู่เสมอ |
2 (ต่ำกว่ามาตรฐาน ที่กำหนด) | • ดูแลและรักษาทรัพย์สินและผลประโยชน์ของบริษัทบ้างเป็นบางครั้ง • ตักเตือนหรือแจ้งผู้ที่ทำผิดระเบียบหรือกฎของบริษัทเท่าที่จำเป็น • ไม่ประพฤติตนตามระเบียบหรือกฎของบริษัทเป็นบางครั้ง |
3 (ตามมาตรฐาน ที่กำหนด) | • รับฟังและไม่นำข้อมูลของผู้อื่นมาเปิดเผย • ดูแลและรักษาทรัพย์สินและผลประโยชน์ของบริษัทอยู่เสมอ • ไม่นำทรัพย์สินของบริษัทมาใช้ประโยชน์ส่วนตัว • ประพฤติตนตามระเบียบหรือกฎของบริษัทอยู่เสมอ |
4 (สูง/เกินกว่ามาตรฐานที่กำหนด) | • ไม่เปิดเผยข้อมูลของหน่วยงานที่อาจสร้างความขัดแย้งหรือปัญหาให้เกิดขึ้นได้ • ให้ข้อมูลที่ถูกต้อง ชัดเจน และเหมาะสมกับกลุ่มคน เวลา และสถานการณ์ • ตักเตือนสมาชิกในทีมเมื่อทำผิดระเบียบหรือกฎของบริษัท • ยอมรับและหาทางแก้ไขความผิดพลาดที่เกิดขึ้นจากการทำงานของตนเอง |
5 (สูง/เกินกว่า มาตรฐานที่กำหนดอย่างมาก) | • แจ้งผู้ที่เกี่ยวข้องเมื่อพบเห็นพนักงานในองค์กรทำผิดระเบียบหรือกฎของบริษัท • ปลุกจิตสำนึกให้สมาชิกทั้งภายในและภายนอกหน่วยงานมีจรรยาบรรณและคุณธรรมในการทำงานและในวิชาชีพของตน • นำทรัพย์สินของตนเองมาใช้เพื่อให้การทำงานประสพผลสำเร็จตามเป้าหมายที่กำหนด |
ดังนั้น ความซื่อสัตย์จึงเป็นพฤติกรรมหรือความสามารถด้านหนึ่งที่คุณเองไม่ควรละเลยหรือเพิกเฉย คุณควรเริ่มสำรวจตัวเองว่าคุณมีความซื่อสัตย์ในการทำงานหรือไม่ และอยู่ในพฤติกรรมระดับไหน ทั้งนี้ขอให้คุณเปิดใจพร้อมที่จะปรับเปลี่ยนตนเองให้มีความซื่อสัตย์ในการทำงาน ซึ่งคุณเองอาจลืมหรือคิดไม่ถึงว่าพฤติกรรมความซื่อสัตย์ของตัวคุณเองนั้นจะส่งผลต่อภาพลักษณ์ที่ปรากฏต่อสายตาของผู้อื่นและบุคคลรอบข้าง และจะส่งผลต่อเนื่องไปถึงผลประโยชน์ที่หน่วยงานและองค์การจะได้รับ
วันอังคารที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2554
เทคโนโลยีสารสนเทศ
- การ
เก็บ รวบ รวม ข้อ มูล เป็น วิธี การ รวบ รวม ข้อ มูล เข้า สู่ ระบบ นักเรียน อาจ เห็น พนักงาน การ ไฟฟ้า ไป ที่ บ้าน พร้อม เครื่อง คอมพิวเตอร์ ขนาด เล็ก เพื่อ บันทึก ข้อ มูล การ ใช้ ไฟฟ้า ใน การ สอบ แข่ง ขัน ที่ มี ผู้ สอบ จำนวน มาก ก็ มี การ ใช้ ดินสอ ระบาย ตาม ช่อง ที่ เลือก ตอบ เพื่อ ให้ เครื่อง อ่าน เก็บ รวบ รวม ข้อ มูล ได้ เมื่อ ไป ซื้อ สินค้า ที่ ห้าง สรรพสินค้า ก็ มี การ ใช้ รหัส แท่ง (bar code) พนักงาน จะ นำ สินค้า ผ่าน การ ตรวจ ของ เครื่อง เพื่อ อ่าน ข้อ มูล การ ซื้อ สินค้า ที่ บรรจุ ใน รหัส แท่ง เมื่อ ไป ที่ ห้อง สมุด ก็ พบ ว่า หนังสือ มี รหัส แท่ง เช่น เดียว กัน การ ใช้ รหัส แท่ง นี้ เพื่อ ให้ ง่าย ต่อ การ เก็บ รวบ รวม wbr >wb - การ
ประมวล ผล ข้อ มูล ที่ เก็บ มา ได้ มัก จะ เก็บ ใน สื่อ ต่าง ๆ เช่น แผ่น บันทึก แผ่น ซี ดี หรือ เทป เป็น ต้น ข้อ มูล เหล่า นี้ จะ ถูก นำ มา ประมวล ผล ตาม ต้อง การ เช่น แยก แยะ ข้อ มูล เป็น กลุ่ม เรียง ลำดับ ข้อ มูล คำนวณ หรือ จัด การ คัด แยก ข้อ มุ ล ที่ จัด เก็บ นั้น
รูป แสดง การ ประมวล ผล ให้ ออก มา ใน รูป เอกสาร - การ
แสดง ผลลัพธ์ อุปกรณ์ ที่ ใช้ เทคโนโลยี ใน การ แสดง ผลลัพธ์ มี มาก สามารถ แสดง เป็น ตัว หนังสือ เป็น รูป ภาพ ตลอด จน พิมพ์ ออก มา ที่ กระดาษ การ แสดง ผลลัพธ์ มี ทั้ง ที่ แสดง เป็น ภาพ เป็น เสียง เป็น วีดิทัศน์ เป็น ต้น
รูป แสดง การ แสดง ผล ลัพท์ ทาง หน้า จอ คอมพิวเตอร์ - การ
ทำ สำเนา เมื่อ มี ข้อ มูล ที่ จัด เก็บ ใน สื่อ อิเล็กทรอนิกส์ ต่าง ๆ การ ทำ สำเนา จะ ทำ ได้ ง่าย และ ทำ ได้ เป็น จำนวน มาก ดัง นั้น อุปกรณ์ ช่วย ใน การ ทำ สำเนา จัด ได้ ว่า เป็น เทคโนโลยี สารสนเทศ ที่ มี การ พัฒนา มา อย่าง ต่อ เนื่อง เรา มี เครื่อง พิมพ์ เครื่อง ถ่าย เอกสาร อุปกรณ์ การ เก็บ ข้อ มูล ทาง อิเล็กทรอนิกส์ เช่น จาน บันทึก ซีดีรอม ซึ่ง สามารถ ทำ สำเนา ได้ เป็น จำนวน มาก - การ
สื่อสาร โทรคมนาคม เป็น วิธี การ ที่ จะ ส่ง จาก ที่ หนึ่ง ไป ยัง อีก ที่ หนึ่ง หรือ กระจาย ออก ไป ยัง ปลาย ทาง ครั้ง ละ มาก ๆ ปัจจุบัน มี อุปกรณ์ ระบบ สื่อสาร โทรคมนาคม หลาย ประเภท ตั้งแต่ โทรเลข โทรศัพท์ เส้น ใย นำ แสง เคเบิล ใต้ น้ำ คลื่น วิทยุ ไมโครเวฟ ดาว เทียม เป็น ต้น
- เทคโนโลยี
สารสนเทศ ช่วย เพิ่ม ผล ผลิต ลด ต้น ทุน และ เพิ่ม ประสิทธิภาพ ใน การ ทำงาน ใน การ ประกอบ การ ทาง ด้าน เศรษฐกิจ การ ค้า และ การ อุตสาหกรรม จำเป็น ต้อง หา วิธี ใน การ เพิ่ม ผล ผลิต ลด ต้น ทุน และ เพิ่ม ประสิทธิภาพ ใน การ ทำงาน คอมพิวเตอร์ และ ระบบ สื่อสาร เข้า มา ช่วย ทำ ให้ เกิด ระบบ อัตโนมัติ เรา สามารถ ฝาก ถอน เงิน สด ผ่าน เครื่อง เอ ที เอ็ม ได้ ตลอด เวลา ธนาคาร สามารถ ให้ บริการ ได้ ดี ขึ้น ทำ ให้ การ บริการ โดย รวม มี ประสิทธิภาพ ใน ระบบ การ จัด การ ทุกแห่ง ต้อง ใช้ ข้อ มูล เพื่อ การ ดำเนิน การ และ การ ตัดสิน ใจ ระบบ ธุรกิจ จึง ใช้ เครื่อง มือ เหล่า นี้ ช่วย ใน การ ทำงาน เช่น ใช้ ใน ระบบ จัด เก็บ เงิน สด จอง ตั๋ว เครื่อง บิน เป็น ต้น - เทคโนโลยี
สารสนเทศ เปลี่ยน รูป แบบ การ บริการ เป็น แบบ กระจาย เมื่อ มี การ พัฒนา ระบบ ข้อ มูล และ การ ใช้ ข้อ มูล ได้ ดี การ บริการ ต่าง ๆ จึง เน้น รูป แบบ การ บริการ แบบ กระจาย ผู้ ใช้ สามารถ สั่ง ซื้อ สินค้า จาก ที่ บ้าน สามารถ สอบ ถาม ข้อ มุ ล ผ่าน ทาง โทรศัพท์ นิสิต นักศึกษา บาง มหาวิทยาลัย สามารถ ใช้ คอมพิวเตอร์ สอบ ถาม ผล สอบ จาก ที่ บ้าน ได้ - เทคโนโลยี
สารสนเทศ เป็น สิ่ง ที่ จำเป็น สำหรับ การ ดำเนิน การ ใน หน่วย งาน ต่าง ๆ ปัจจุบัน ทุก หน่วย งาน ต่าง พัฒนา ระบบ รวบ รวม จัด เก็บ ข้อ มูล เพื่อ ใข้ ใน องค์การ ประเทศ ไทย มี ระบบ ทะเบียน ราษฎร์ ที่ จัด ทำ ด้วย ระบบ ระบบ เวช ระเบียน ใน โรง พยาบาล ระบบ การ จัด เก็บ ข้อ มูล ภาษี ใน องค์การ ทุก ระดับ เห็น ความ สำคัญ ที่ จะ นำ เทคโนโลยี สารสนเทศ มา ใช้ - เทคโนโลยี
สารสนเทศ เกี่ยว ข้อง กับ คน ทุก ระดับ พัฒนา การ ด้าน เทคโนโลยี สารสนเทศ ทำ ให้ ชีวิต ความ เป็น อยู่ ของ คน เกี่ยว ข้อง กับ เทคโนโลยี ดัง จะ เห็น ได้ จาก การ พิมพ์ ด้วย คอมพิวเตอร์ การ ใช้ ตาราง คำนวณ และ ใช้ อุปกรณ์ สื่อสาร โทรคมนาคม แบบ ต่าง ๆ เป็น ต้น
- การ
สร้าง เสริม คุณภาพ ชีวิต ที่ ดี ขึ้น สภาพ ความ เป็น อยู่ ของ สังคม เมือง มี การ พัฒนา ใช้ ระบบ สื่อสาร โทรคมนาคม เพื่อ ติดต่อ สื่อสาร ให้ สะดวก ขึ้น มี การ ประยุกต์ มา ใช้ กับ เครื่อง อำนวย ความ สะดวก ภาย ใน บ้าน เช่น ใช้ ควบ คุม เครื่อง ปรับ อากาศ ใช้ ควม คุม ระบบ ไฟฟ้า ภาย ใน บ้าน เป็น ต้น - เสริม
สร้าง ความ เท่า เทียม ใน สังคม และ การ กระจาย โอกาส เทคโนโลยี สารสนเทศ ทำ ให้ เกิด การ กระจาย ไป ทั่ว ทุกหน แห่ง แม้ แต่ ถิ่น ทุรกันดาร ทำ ให้ มี การ กระจาย โอ การ การ เรียน รู้ มี การ ใช้ ระบบ การ เรียน การ สอน ทาง ไกล การ กระจาย การ เรียน รู้ ไป ยัง ถิ่น ห่าง ไกล นอกจาก นี้ ใน ปัจจุบัน มี ความ พยายาม ที่ ใช้ ระบบ การ รักษา พยาบาล ผ่าน เครือ ข่าย สื่อสาร - สารสนเทศ
กับ การ เรียน การ สอน ใน โรง เรียน การ เรียน การ สอน ใน โรง เรียน มี การ นำ คอมพิวเตอร์ และ เครื่อง มือ ประกอบ ช่วย ใน การ เรียน รู้ เช่น วีดิทัศน์ เครื่อง ฉาย ภาพ คอมพิวเตอร์ ช่วย สอน คอมพิวเตอร์ ช่วย จัด การ ศึกษา จัด ตาราง สอน คำนวณ ระดับ คะแนน จัด ชั้น เรียน ทำ รายงาน เพื่อ ให้ ผู้ บริหาร ได้ ทราบ ถึง ปัญหา และ การ แก้ ปัญหา ใน โรง เรียน ปัจจุบัน มี การ เรียน การ สอน ทาง ด้าน เทคโนโลยี สารสนเทศ ใน โรง เรียน มาก ขึ้น - เทคโนโลยี
สารสนเทศ กับ สิ่ง แวด ล้อม การ จัด การ ทรัพยากร ธรรมชาติ หลาย อย่าง จำเป็น ต้อง ใช้ สารสนเทศ เช่น การ ดูแล รักษา ป่า จำเป็น ต้อง ใช้ ข้อ มูล มี การ ใช้ ภาพ ถ่าย ดาว เทียม การ ติด ตาม ข้อ มูล สภาพ อากาศ การ พยากรณ์ อากาศ การ จำลอง รูป แบบ สภาวะ สิ่ง แวด ล้อม เพื่อ ปรับปรุง แก้ ไข การ เก็บ รวม รวม ข้อ มูล คุณภาพ น้ำ ใน แม่น้ำ ต่าง ๆ การ ตรวจ วัด มลภาวะ ตลอด จน การ ใช้ ระบบ การ ตรวจ วัด ระยะ ไกล มา ช่วย ที่ เรียก ว่า โทร มาตร เป็น ต้น - เทคโนโลยี
สารสนเทศ กับ การ ป้องกัน ประเทศ กิจการ ทาง ด้าน การ ทหาร มี การ ใช้ เทคโนโลยี อาวุธ ยุทโธปกรณ์ สมัย ใหม่ ล้วน แต่ เกี่ยว ข้อง กับ คอมพิวเตอร์ และ ระบบ ควบ คุม มี การ ใช้ ระบบ ป้องกัน ภัย ระบบ เฝ้า ระวัง ที่ มี คอมพิวเตอร์ ควบ คุม การ ทำงาน - การ
ผลิต ใน อุตสาหกรรม และ การ พาณิช ย กรรม การ แข่ง ขัน ทาง ด้าน การ ผลิต สินค้า อุตสาหกรรม จำเป็น ต้อง หา วิธี การ ใน การ ผลิต ให้ ได้ มาก ราคา ถูก ลง เทคโนโลยี คอมพิวเตอร์ เข้า มา มี บท บาท มาก มี การ ใช้ ข้อ มูล ข่าว สาร เพื่อ การ บริหาร และ การ จัด การ การ ดำเนิน การ และ ยัง รวม ไป ถึง การ ให้ บริการ กับ ลูกค้า เพื่อ ให้ ซื้อ สินค้า ได้ สะดวก ขึ้น
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)